ในปัจจุบันอุตสาหกรรมบันเทิงเป็นธุรกิจหนึ่งที่ทำให้เกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังมีแนวโน้นที่จะขยายตัวไปเป็นธุรกิจระหว่างประเทศ ซึ่งสามารถสร้างรายได้และเผยแพร่ชื่อเสียงของประเทศไทยให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น เนื่องจากอุตสาหกรรมบันเทิงมีอัตราการเจริญเติบโตสูงและเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาเนื่องด้วยความทันสมัยของสื่อที่สามารถผลิตสื่อสมัยใหม่ได้หลายรูปแบบ จึงทำให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงสื่อได้ง่ายและหลายช่องทาง ดังนั้นผู้ที่ประกอบการด้านอุตสาหกรรมธุรกิจบันเทิงจึงต้องมีความพร้อม และความรู้ความสามารถด้านต่างๆ จากจุดนี้เองทำให้มหาวิทยาลัยต่างๆได้เล็งเห็นพร้อมทั้งหันมาให้ความสนใจเกี่ยวกับเรื่องการจัดการอุตสาหกรรมบันเทิง โดยเปิดหลักสูตรในระดับมหาบัณฑิต อาทิเช่น มหาวิทยาลัยกรุงเทพ มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต มหาวิทยาลัยคริสเตียน มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ฯลฯ เพื่อผลิตบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถ และตอบสนองความต้องการของตลาดที่เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว
ม.กรุงเทพได้เปิดเกมรุกในการเป็นผู้นำทางด้านอุตสาหกรรมบันเทิง ลุยเปิดหลักสูตรปริญญาโท สาขาวิชาการบริหารธุรกิจบันเทิงและการผลิต โดยเน้นการผลิตบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถทางการบริหารธุรกิจบันเทิงและผลิต เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดที่เติบโตและเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา นอกจากนี้ยังมุ่งหวังที่จะสร้างผู้ประกอบการทางด้านธุรกิจบันเทิงที่สามารถบูรณการความรู้พร้อมนำไปใช้ในการบริหารธุรกิจให้ประสบความสำเร็จและมีประสิทธิภาพ โดยการดึงคนในแวดวงบันเทิงสาขาต่างๆ มาเป็นอาจารย์พิเศษ ซึ่งอาจารย์ปีเตอร์ กัน ประธานที่ปรึกษาหลักสูตรได้กล่าวว่า “หลักสูตรนี้เกิดมาจากการผสมผสานศาสตร์ทางด้านนิเทศศาสตร์และทางด้านบริหารธุรกิจ ซึ่งเล็งเห็นว่าในปัจจุบันอุตสาหกรรมบันเทิงมีแนวโน้มทางการตลาดที่เติบโตสูง เนื่องด้วยอิทธิพลของสื่อสมัยใหม่ที่สามารถเชื่อมต่อและผสมผสานกันในหลายรูปแบบ แต่ก็ยังขาดบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถในด้านนี้ ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาการตลาดของสื่อทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงภาคการผลิตและบริหารจัดการด้วย ดังนั้นในเมื่อทางมหาวิทยาลัยกรุงเทพก็มีความพร้อมอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของคณาจารย์ หรือจะเป็น Media Center ที่ได้มาตรฐานระดับโลก เราจึงมีแนวคิดที่จะจัดทำและมุ่งหวังที่จะทำให้อุตสาหกรรมบันเทิงไทยสามารถก้าวเข้าไปแข่งขันในระดับนานาชาติ อีกทั้งจุดแข็งของหลักสูตรนี้คือ 1.ตัวทฤษฎีที่เตรียมการมาไม่เป็นรองใครในโลก 2.มาจากคณาจารย์ที่เป็นผู้ปฏิบัติจริง ดังนั้นถ้าคุณเรียน Entertainment Management ผมไม่เชื่อว่าคุณจะเรียนจากที่ไหนได้ดีกว่าที่นี่อีกแล้วในโลกนี้ เพราะว่าถ้าคุณไปเรียนที่ต่างประเทศ เขาก็ไม่สามารถนำ case ของเมืองไทยใส่เข้าไปได้ใช่ไหม เนื่องจากคุณเรียนเพื่อมาใช้ที่เมืองไทย คณาจารย์ต่างๆที่เมืองไทยก็จะถ่ายทอดเทคนิค มุมมองทางธุรกิจในแง่มุมต่างๆ ที่มาจากประสบการณ์ตรงในการทำงาน และเป็น case ที่เกิดขึ้นในสถานการณ์จริง”